โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)
พระราชดำริ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชกระแสรับสั่ง เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2527 “…ให้มีการปรับปรุงสภาพป่า บริเวณอ่างเก็บน้ำปางตองใหม่และฝายปางอุ๋ง ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม…..”
ความเป็นมา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่า บริเวณอ่างเก็บน้ำปางตองใหม่และฝายปางอุ๋ง ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่าเป็นเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว สภาพป่าไม่สามารถที่จะฟื้นตัวขึ้นเองตามธรรมชาติได้ทันกับความต้องการในด้านอุปโภคบริโภค การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และขาดสมดุลทางระบบนิเวศ ถ้าปล่อยให้สภาพการณ์เป็นไปเช่นนี้ก็จะมีผลเสียหาย และกระทบกระเทือนสู่บริเวณลุ่มน้ำแม่สะงาและลุ่มน้ำในสอย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและระบบนิเวศ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงมีพระราชกระแสรับสั่งกับ พลเอกปิ่น ธรรมศรี หัวหน้าคณะทำงานส่วนพระองค์ในขณะนั้น เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2527 “…ให้มีการปรับปรุงสภาพป่า บริเวณอ่างเก็บน้ำปางตองใหม่และฝายปางอุ๋ง ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม...” โครงการอันเนื่องมาจาพระราชดำริจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)ได้เข้าดำเนินการเกี่ยวกับการฟื้นฟูสภาพป่าและปรับปรุงระบบนิเวศ มาตั้งแต่ปี 2528 จนถึงปัจจุบัน ได้แก่ การปลูกป่าในรูปแบบ ต่าง ๆ ทั้งการปลูกป่าทั่วไป การปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง การปลูกป่าไม้ใช้สอย การปลูกหวายตาม
พระราชดำริ ปลูกป่าปรับปรุงระบบนิเวศ การปลูกป่าเปียก รวมเนื้อที่ 20,860 ไร่ การจัดทำแนว กันไฟ การจัดทำฝายต้นน้ำชะลอความชุ่มชื้น รวมถึงการส่งเสริมการจัดทำโครงการธนาคารอาหารชุมชนเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร พระราชดำริ ปลูกป่าปรับปรุงระบบนิเวศ การปลูกป่าเปียก รวมเนื้อที่ 20,860 ไร่ การจัดทำแนว กันไฟ การจัดทำฝายต้นน้ำชะลอความชุ่มชื้น รวมถึงการส่งเสริมการจัดทำโครงการธนาคารอาหารชุมชนเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร การดำเนินงานที่ผ่านมาส่งผลทำให้ป่าบริเวณนี้ มีความสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่งนอกการฟื้นฟูสภาพป่าในพื้นที่แล้ว โครงการยังได้พัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากสภาพภูมิประเทศของโครงการ อยู่บนพื้นที่สูงมีทัศนียภาพป่าสนสามใบ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ประกอบกันอย่างลงตัว สภาพอากาศหนาวเย็นตลอด ทั้งปี ในช่วงเช้ามืดของฤดูหนาวอ่างเก็บน้ำจะเต็มไปด้วยหมอกที่สวยงาม ทำให้พื้นที่โครงการ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมมากกว่า 50,000 คน ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่นมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
พระราชดำรัสเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2540 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนิน ณ สวนป่าตามโครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ทรงมีพระราชดำรัสเพิ่มเติมว่า “ ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาเยี่ยมที่นี้อีกครั้ง เยี่ยมประชาชนทุกหมู่เหล่า และได้เห็นความตั้งใจของทุก ๆ ท่าน ที่ช่วยกันรักษาป่า อันที่จริงคำว่าป่านี้ ที่สำคัญคือหมายถึงต้นน้ำ แหล่งที่ผลิตน้ำทำให้เกิดน้ำขึ้น เวลาฝนตกหน้าฝนต้นไม้นี้คอยเป็นที่เก็บน้ำไว้ใต้ดิน เก็บไว้ตามลำต้น ตามกิ่งก้าน ตามใบและ ที่เขาเก็บเอาไว้ ทุกคนก็รู้ดีว่า ในชีวิตของเราสิ่งที่สำคัญที่สุดคือน้ำ เราขาดข้าวขาดอาหารได้หลายวัน แต่เราอยู่ได้ไม่กี่วันถ้าไม่มีน้ำ แม้แต่เวลาที่เราอยู่ในท้องแม่ เราก็ต้องมีน้ำคอยหล่อเลี้ยงไม่ให้กระทบกระทั่งจนกระทั่งตาย ก่อนที่จะคลอดออกจากท้องแม่ น้ำนี้เป็นสิ่งที่เลี้ยงดูชีวิตของสัตว์ที่มีชีวิตทั้งหลาย เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรสำคัญที่สุดเท่าน้ำ ข้าพเจ้าอยากจะบอกว่าทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในโลก ไม่ใช่ทอง ไม่ใช่เพชร แต่เป็นน้ำ และบังเอิญทรัพยากรน้ำนี้ ไม่ใช่เป็นของเหลือเฟือในโลกของเรานี้ โลกของเรานี้น้ำมีค่าที่สุดเป็นของมีน้อย มีจำกัด และไม่เพิ่มขึ้น แม้แต่กาลเวลาจะผ่านไปอย่างไร น้ำ มีจำนวนเท่าไหร่ตั้งแต่โลกสร้างมาที่คนอยู่ได้ น้ำก็จะอยู่เท่านั้น ไม่มีวันเพิ่มขึ้นเพราะฉะนั้นถ้าเราทุกคนรู้ถึงความหายากความที่มีค่าของน้ำ ก็ต้องรู้ด้วยว่าอะไรที่รักษาน้ำไว้ในดินให้กับเรา ก็คือป่า คือต้นไม้ และต้นไม้นี้เอง ทำให้เกิดฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ประชาชนหลายแห่งพูดกับข้าพเจ้าว่า เดี๋ยวนี้ไม่ทราบว่าอะไรทำให้ฝนคลาดไป ไม่ตรงต่อฤดูกาล อันที่จริงพวกเรานั้นเองที่ทำให้ฝนแล้ง ฝนคลาดเคลื่อนจาก ฤดูกาล การที่เราทำลายป่าเป็นจำนวนมาก เรานี่แหละลดความชุ่มชื้นในอากาศ ในบรรยากาศเรานี้แหละทำให้ฝนคลาดเคลื่อน ทำให้ฝนไม่ตก ไม่ใช่ใครอื่นที่เราจะไปโทษได้ เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนรู้ว่า การรักษาป่า การดูแลให้โลกนี้แผ่นดินนี้ มีต้นไม้นี้แหละ คือเราสร้างเราเก็บน้ำ ทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเราไว้ ข้าพเจ้าขออวยพรให้ทุก ๆ ” ท่านมีความสุขสวัสดี มีโชคดี มีชีวิตที่รุ่งเรืองแจ่มใส อยู่ในขอบเขตของคนดี สวัสดี ”
วัตถุประสงค์ของโครงการ
1. เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ให้มีอยู่ในอัตราส่วนที่เหมาะสมที่จะรักษาดุลธรรมชาติ
2. เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ดิน ป่าไม้ และสัตว์ป่า
3. เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น
4. เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเกิดความรัก หวงแหน รู้ถึงคุณประโยชน์ของป่าไม้
ที่ตั้ง เนื้อที่ และอาณาเขต
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) มีสำนักงานตั้งอยู่พิกัด 385300 E 2156500 N แผนที่ภูมิประเทศ กรมแผนที่ทหาร L 7018 ระวาง 4548-II บ้านรวมไทย หมู่ที่ 5 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 1,200 เมตร ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 3 กิโลเมตร และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ปายฝั่งขวาตอนล่าง ปัจจุบันได้มีพระราชกฤษฎีกาประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ถ้ำปลา – น้ำตกผาเสื่อ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2552 มีเนื้อที่ประมาณ 51,752 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่บ้านห้วยมะเขือส้ม บ้านรวมไทย หมู่ที่ 5 ตำบลหมอกจำแป่ และบ้านไม้สะเป่ บ้านห้วยผึ้ง หมู่ที่ 9 ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีอาณาเขตดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านนาป่าแปก และพื้นที่โครงการฯ ปางตอง 1(บ้านห้วยมะเขือส้ม)
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ถนนสายแม่ฮ่องสอน – บ้านรักไทย และพื้นที่โครงการฯ ปางตอง 3 (หมอกจำแป่- แม่สะงา)
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ประเทศสหภาพพม่า
ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านดอยแสง และป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ปายฝั่งขวาตอนล่าง
นายเกียรติศักดิ์ วังวล
หัวหน้าโครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)